ดูดไขมัน กระชับสัดส่วนด้วย J Plasma

J-Plasma คือ นวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยยกกระชับผิวและสัดส่วน ที่ผสมผสานพลังงานอันทรงประสิทธิภาพระหว่างพลาสมาฮีเลียม และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) โดยหลักการทำงานคือ เมื่อศัลยแพทย์ทำการสอดท่อพลังงานขนาดเล็ก ๆ เข้าไปใต้ผิวหนัง และพลังงานจะถูกปล่อยในจุดที่ต้องการ โดยก่อให้เกิดความร้อนขึ้นที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่สามารถทำให้เส้นใยที่ทำหน้าที่ยึดผิว (Fibroseptal Network) เนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมไปถึงเนื้อเยื่อที่เป็นโพรงช่องว่างอยู่จะหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผิวหนังกระชับขึ้นทันที โดยท่อพลังงานจะลดอุณหภูมิลงเองอัตโนมัติให้เหลือ 41 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อรอบข้างเกิดความเสียหาย

ซึ่งเทคโนโลยี J-Plasma ได้รับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากสำนักงานอาหารและยาทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) และในประเทศไทย (อย.) ซึ่งเทคโนโลยี J-Plasma สามารถใช้ได้กับบริเวณต่าง ๆ ตามร่างกาย อาทิ ต้นแขน รักแร้ หน้าท้อง หลัง เอว ขา หรือน่อง
 

แนวทางการกระชับสัดส่วนด้วยเทคโนโลยี J-Plasma

  • กระชับแขนด้วย J-Plasma เทคโนโลยี J-Plasma ช่วยลดไขมันและกระชับผิวที่แขน ปัญหาแขนที่ไม่กระชับหรือมีการสะสมไขมันมาก จะได้รับการปรับปรุง ทำให้แขนดูเล็กเรียวขึ้น และช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อที่เปล่งปลั่งกล้ามเนื้อแขน
  • กระชับหน้าท้องด้วย J-Plasma เทคโนโลยี J-Plasma ช่วยลดไขมันที่เกินอยู่บริเวณท้อง, เอว และช่วยให้ผิวท้องกระชับมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่คลอดบุตรแล้วและมีปัญหาหน้าท้องลายหรือผิวท้องสึกกร่อน หรือคนที่ออกกำลังกายไม่ถูกต้องทำให้ไขมันลดลงอย่างรวดเร็ว มันช่วยให้ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยหรือมีสภาพที่ดูดไขมันแล้วไม่มีการยกกระชับผิว
  • ลดขาใหญ่ ต้นขาด้วย J-Plasma ปัญหาขาใหญ่ที่ไม่กระชับ ใส่กางเกงแล้วรู้สึกอึดอัดและขาชนกัน สามารถใช้เทคโนโลยี J-Plasma เพื่อกระชับต้นขา ลดขนาดขาใหญ่ และปัญหาต้นขาที่หย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือกระชับด้วยวิธีการอื่น มันช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใส่เสื้อผ้าและกลับมามีความมั่นใจในร่างกายอีกครั้ง
กระชับสัดส่วนด้วยเทคโนโลยี J-Plasma ช่วยให้สามารถปรับปรุงรูปร่างของตัวเองได้อย่างปลอดภัยและมีผลลัพธ์ที่มั่นคง แต่อย่าลืมว่าการดูแลสุขภาพอย่างคงที่ร่วมกับการออกกำลังกายและการบำรุงผิวช่วยเสริมความสามารถในการกระชับสัดส่วนอีกด้วย

การทำ J-Plasma มีข้อดีต่อไปนี้

  • แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว เทคโนโลยี J-Plasma ใช้พลาสมาและเครื่องจักรกระตุ้นเพื่อสร้างพลังงานความร้อนในรูปของพลาสมาเจล โดยทำให้แผลเล็กและเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดทั่วไป ผู้ที่ทำการกระชับสัดส่วนด้วย J-Plasma จะฟื้นตัวได้รวดเร็วมากกว่าวิธีการอื่นๆ
  • รักษาได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง J-Plasma ช่วยลดไขมันและกระชับผิวในพื้นที่เฉพาะที่ต้องการ การกระชับจะเน้นไปที่จุดที่ต้องการเท่านั้น และไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้มีประสิทธิภาพและเสี่ยงน้อยกว่าการทำผ่าตัดทั่วไป
  • ไม่ต้องผ่าตัด การกระชับสัดส่วนด้วย J-Plasma ไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดที่ซับซ้อน ซึ่งทำให้ลดความเสี่ยงทางการและเวลาฟื้นตัวของผู้รับการรักษา
  • ห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ผู้ที่รับการรักษาด้วย J-Plasma สามารถเห็นผลลัพธ์การกระชับสัดส่วนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ซึ่งช่วยให้มั่นใจและรู้สึกดีต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

J-Plasma แตกต่างจากการผ่าตัดยกกระชับแบบเดิมดังนี้

  • เห็นผลทันที ผู้ที่รับการรักษาด้วย J-Plasma สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการทำโดยไม่ต้องรอให้แผลหายเป็นเวลานาน
  • สามารถใช้ควบคู่ไปกับการดูดไขมัน J-Plasma สามารถใช้ร่วมกับกระบวนการดูดไขมันเพื่อกำจัดไขมันเฉพาะจุดและกระชับผิวหนังในคราวเดียวกัน นั่นหมายความว่าผู้รับการรักษาสามารถได้รับประโยชน์ทั้งการกำจัดไขมันและการกระชับในครั้งเดียว
  • ทำครั้งเดียวเห็นผล ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำ การทำ J-Plasma ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันทีและมีผลต่อระยะยาว ผู้รับการรักษาไม่จำเป็นต้องกลับมาทำซ้ำอีกครั้ง
  • ไม่ต้องผ่าตัด J-Plasma ไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดที่ซับซ้อน แทนที่จะใช้พลังงานความร้อนในรูปของพลาสมาเจลเพื่อกระชับผิวและลดไขมัน การทำ J-Plasma ใช้เครื่องจักรและเครื่องผสมพลาสมาเพื่อสร้างพลังงานความร้อน โดยทำให้แผลที่เกิดขึ้นเล็กเพียง 2-3 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งช่วยลดการเกิดอาการบวมและช้ำและทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • ใช้พลังงานที่อุณหภูมิควบคุม การใช้ J-Plasma ใช้พลังงานควบคุมในอุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียสเฉพาะในบริเวณที่ต้องการรักษา เพื่อกระชับผิวและลดไขมัน และทันทีที่เสร็จสิ้นกระบวนการ ระบบ J-Plasma จะควบคุมอุณหภูมิผิวหนังให้เย็นลงเหลือ 41 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการไหม้ผิวหนังและไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง

ขั้นตอนการทำ J-Plasma ประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

  • การใช้ยาชาเฉพาะจุด ก่อนเริ่มกระบวนการ, ผู้ปฏิบัติการทายาชาเฉพาะจุดบนบริเวณที่จะทำการรักษา เพื่อให้ผู้รับการรักษารู้สึกสบายและไม่รู้สึกอึดอัดหรือเจ็บจนเกินไป
  • เปิดแผลเล็ก ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็กเพียง 2-3 มิลลิเมตรบริเวณที่ต้องการทำการรักษา โดยใช้เลเซอร์หรืออุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อสอดท่อพลังงานเล็ก ๆ เข้าไปใต้ผิวหนัง
  • การส่งพลังงาน จากนั้นศัลยแพทย์จะส่งพลังงานจากท่อเล็ก ๆ นี้ไปยังจุดที่ต้องการทำการรักษา พลังงานนี้เป็นรูปแบบของพลาสมาเจลที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีอุณหภูมิสูง ทำให้เกิดการกระชับผิวหนังและลดไขมันในบริเวณนั้น
  • เย็บปิดแผล หลังจากที่ศัลยแพทย์ได้ทำการรักษาแล้ว เขาจะทำการเย็บแผลเล็ก ๆ เพื่อปิดแผลและส่งเสริมให้แผลหายได้รวดเร็ว
สำหรับผู้ที่มีไขมันร่วมกับผิวหนังหย่อนคล้อย กระบวนการดูดไขมันจะถูกดำเนินก่อนการทำ J-Plasma โดยศัลยแพทย์จะทำการดูดไขมันเพื่อลดปริมาณไขมันในบริเวณนั้น จากนั้นสามารถดำเนินกระบวนการ J-Plasma เพื่อกระชับผิวหนังหลังจากการดูดไขมันได้พร้อมกัน
ขั้นตอนการทำJplasma