การศัลยกรรม ตาสองชั้น

การทำตาสองชั้นนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการมองเห็น ตาตก ตาไม่เท่ากัน บดบังการมองเห็น ยังช่วยปรับโครงหน้า ปรับบุคลิกให้ดูสดใส น่ารัก เพิ่มเสน่ห์ ซึ่งการทำตาสองชั้น มีเทคนิคการทำหลายวิธี โดยศัลยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคนไข้ที่แตกต่างกัน

ทำตาสองชั้น มีกี่วิธี

วิธีการทำตาสองชั้น ด้วยเลเซอร์

วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีตาสองชั้นแต่ไม่ชัด หนังตาหย่อน ตาตกไม่มาก โดยวิธีนี้ไม่จำเป้นต้องผ่าตัด ทำได้กับทุกสภาพผิว และไม่มีรอยแผลเป็น ไม่อันตรายกับเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้ตาสองชั้นชัดขึ้น

เป็นการใช้พลังงานพลาสมา (Plasma) โดยเป็นการเลเซอร์ที่มีชื่อว่า เพล็กเซอร์ (Plexr) ส่งคลื่นไปยังบริเวณผิวหนังที่หย่อนหายไป โดยคลื่นที่ส่งออกไปจะมีพลังงานความร้อนประมาณ 60 องศา สามารถแก้ไขหนังตาที่หย่อนคล้อย ตกไม่มากให้หายไปได้

คนที่เหมาะกับการทำตาสองชั้นด้วยเลเซอร์

1. คนที่มีตาสองชั้นแต่ ตาตก หย่อนตล้อยเล็กน้อย จะทำให้ชั้นของตาดูชัดขึ้น

2. คนที่ไม่ต้องการผ่าตัด

ข้อดีของการทำตาสองชั้นด้วยวิธีเลเซอร์

1.ผู้ที่กลัวการผ่าตัด

2.ผู้ที่มีโรคประจำตัว กลัวผลข้างเคียง

ข้อสังเกตของการทำตาสองชั้นชั้นวิธีเลเซอร์

1. เลเซอร์จะไม่ค่อยส่งผลกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว และต้องการทำตา2ชั้น

2. เมื่อเทียบวิธีการทำตาสองชั้นด้วยวิธีอื่นแล้ว วิธีนี้อาจได้ผลน้อยกว่า

วิธีการทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด (Suture Technique)

วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียวและชั้นหนังตาไม่หนามาก ไม่ตก ไม่หย่อน เป็นการเย็บชั้นเปลือกตา 3 จุด วิธีนี้จะทำตาสองขั้นโดยไม่ต้องกรีดตา จึงไม่เป็นแผลและดูเป็นธรรมชาติ

คนที่เหมาะกับการทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด

1. เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว โดยที่ไขมันบริเวณเปลือกตาและชั้นหนังตาไม่หนามาก

2. เหมาะกับผู้ที่มีหนังบริเวณเปลือกตาไม่ตก ไม่หย่อนคล้อย

ข้อดีของการ ทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด

1. วิธีนี้จะดูเป็นธรรมชาติไม่ค่อยเห็นเป็นรอยแผล เนื่องจากรอยที่ติดหนังเปลือกตาข้อนข้างเล็ก

2. เป็นวิธีที่ได้รับผลข้างเคียงน้อยมาก เนื่องจากเป็นแผลเย็บ 3 จุด ทำให้มีอาการบวม หรือผลกระทบกับผิวรอบเปลือกตาน้อยกว่าวิธีอื่นๆพอสมควร

ข้อสังเกตของการ ทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด

1.การทำตาสองชั้นด้วยวิธีเย็บ 3 จุด ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีเปลือกตาหนา หรือไขมันมากและหนังตาหย่อนคล้อยเพราะทำให้ชั้นตาหลุดง่าย เนื่องจากหนังตาส่วนเกินที่ตกลงมาดันตัวไหมให้หลุดออก

2. มีข้อจำกัดของขนาดชั้นตา โดยจะประเมินจากความหนาของเปลือกตาประกอบด้วย

3. ระยะเวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี หนังตาอาจตกลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคห

วิธีการทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก (Small Incision Technique)

การทำตาสองชั้นแบบแผลเล็ก ศัลยแพทย์จะกรีดแผลบริเวณเปลือกตา โดยปกติจะมีขนาดประมาณ 3-5 มิลลิเมตร และวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวืธีที่มีผลข้างเคียงข้อนข้างน้อย เช่นการบวมบริเวณเปลือกตาจะน้อยกว่าการผ่าตัดวิธีอื่นๆ แต่เนื่องจากเป็นการกรีดแผลเล็ก ศัลยแพทย์อาจจะดูเรื่องความเหมาะสมในเรื่องของเปลือกตา หากมีไขมันมากหรือหนังตาที่หนา ศัลยแพทย์อาจจะแนะนำวิธีอื่น

คนที่เหมาะกับการทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก

1. ผู้ที่มีหนังตาและไขมันไม่หนามากเกินไป 2. เหมาะกับผู้ที่มีหนังบริเวณเปลือกตาไม่ตก ไม่หย่อนคล้อย

ข้อดีของ การทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก

1.แผลเล็ก3-5 มิลลิเมตร เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นแผลเป็น สมานแผลเร็ว 2. ผลข้างเคียงน้อยมาก ไม่ต้องพักฟื้น เมื่อศัลยกรรมเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ 3. เหมาะกับผู้ที่มีหเปลือกตา หนังตา ไม่หนามาก 4. สามารถเอาไขมันออกในขณะที่ทำตาสองชั้นได้มากกว่า เย็บ 3 จุด

ข้อสังเกตของ การทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก

1. วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาตกมาก ชั้นของตาอาจจะเล็กลงและอาจทำให้หนังตากลับมาย้อยที่หางตา 2. วิธีนี้ไม่ได้เอาผิวหนังส่วนเกินออก ดังนั้นผู้ที่มีเปลือกตาหนา หรือผู้สูงอายุ ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีการตัดหนังส่วนเกินออกเพิ่มเติมเพื่อความเหมาะสมและให้ตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด

วิธีการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว (Upper blepharoplasty)

การทำตาสองชั้นแบบแผลยาว เป็นการกรีดแผลยาวขึ้นเพื่อนำไขมันส่วนเกินออกได้ระดับหนึ่ง โดยวิธีการไม่แตกต่างจากการกรีดแผลเล็ก แต่สามารถนำไขมันและหนังส่วนเกินออกได้มากกว่าการผ่าตัดแผลเล็ก

คนที่เหมาะกับการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

ข้อดีของการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

1. กับเคสที่มีหนังตาตกหรือมีไขมันในระดับที่ไม่มาก วิธีนี้จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าแผลสั้น 2. การทำตาสองชั้นวิธีนี้จะสามารถเอาไขมันส่วนเกินออกได้เยอะกว่ากรีดแผลสั้น

ข้อเสียของการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

1.ด้วยลักษณะแผลที่ยาวกว่า จึงมีอาการบวมและรอยแผลที่มากกว่าการผ่าตัดแผลเล็ก 2.วิธีนี้สามารถนำไขมันและหนังส่วนเกินออกได้ระดับหนึ่ง ดังนั้นอาจจะเหมาะกับผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อยไม่มาก

การทำตาสองชั้น ร่วมกับ เปิดหัวตา

การเปิดหัวตา ในกรณีที่มีชั้นไขมัน หนังตาหย่อนคล้อย หัวตาตก ตาดูเหล่ ดูเศร้าตลอดเวลา ศัลยแพทย์จะแนะนำให้เปิดหัวตาพร้อมเปิดแผลยาว โดยวิธีนี้จะทำให้หัวตาดูกว้างขึ้น เป็นธรรมชาติ มีความโค้งของชั้นตาที่ชัดขึ้น

ในกรณีกับคนที่หัวตาไม่ตก อาจไม่จำเป็นที่จะเปิดหัวตาซึงจะอยู่ในการพิจารณาของศัลยแพทย์

คนที่เหมาะกับการทำตาสองชั้น ร่วมกับเปิดหัวตา

1. ผู้ที่มีลักษณะหนังตาตก ปิดหัวตา 2. ผู้ที่ต้องการให้มีชั้นตาที่ชัดขึ้น และต้องการให้หัวตาเปิดดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดีการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา

1.ลักษณะตาดูเรียว ยาว
2.ทำให้ชั้นตาดูชัดขึ้นตั้งแต่หัวตาจรดหางตา
3.การเปิดหัวตาทำให้ตาดูใกล้จมูกมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ตาห่างและแก้ไขปัญหาตาเหล่
4.การเปิดหัวตาทำให้ตาสองชั้นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ข้อสังเกตการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา

1. ในช่วงแรกของการพักฟื้นจะมีแผลที่บริเวณหัวตาเห็นข้อนข้างชัด แต่รอยแผลจะค่อยๆจางหายไปโดยระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะบุคคอล 2. การผ่าตัดเปิดหัวตาเป็นการทำศัลยกรรมถาวรทำแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดทำตาสองชั้น

1.งดอาหารเสริม วิตามิน ทุกชนิด 7 วันก่อนเข้ารับการผ่าตัด

2. ในช่วง2-3วันหลังผ่าตัดควรใส่แว่นเพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้าตา

3. แนะนำให้งดการขับรถ(ควรมีคนขับให้) หรือใช้สายตาหนักภายใน1-2วันแรกหลังผ่าตัด

4.พักผ่อนเตรียมร่างกายให้พร้อม

การดูแลหลังผ่าตัดทำตาสองชั้น

1. 48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด แนะนำให้ใช้เจลประคบเย็น ประคบบริเวณแผลโดยห้ามให้แผลเปียกน้ำ สามารถใช้ผ้าก๊อซรองเพื่อป้องกันแผลเปียกได้ ในกรณีที่มีเลือดออก ใช้ผ้าก๊อซกดบริเวณแผลเพื่อห้ามเลือด ใช้แรงกดพอเพื่อห้ามเลือด ห้ามกดแรงจนเกินไป

2. นอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวมในช่วง 1-2 คืนแรก

3. ใช้ cotton brush หรือไม้พันสำลี ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือตามด้วยเบตาดีนวันละ 1-2 ครั้ง

4. ป้องกันไม่ให้แผลเปียก เพื่อกันการติดเชื้อ

5. ในกรณีที่ผ่านไป 3 วัน ยังมีรอยเขียวช้ำ สามารถใช้ประคบอุ่นเพื่อลดอาการเขียวช้ำได้

6. ป้องกันอาการคันแผลนูน โดยการหลีกเลี่ยงการทานอาหารทะเล ของหมักดอง เหล้า ไข่

7. หากมีอาการปวดสามารถทานยาแก้ปวดที่แพทย์จ่ายให้ ควรกินยาฆ่าเชื้อให้ครบตามใบจ่ายยาเพื่อป้องกันอาการดื้อยา

8. มาตัดไหมตามนัด 5-7 วัน