ยกกระชับหน้าอก

หน้าอกหย่อนยานหรือนมยามเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงสูญเสียความมั่นใจในสรีระของตัวเองได้มากมาย การใส่เสื้อผ้าที่เน้นสัดส่วนของหน้าอกอาจทำให้รู้สึกกังวลต่อสายตาคนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดคอ บ่า และหลังที่เกิดขึ้นจากการให้ร่างกายสนับสนุนน้ำหนักของหน้าอกที่ล้มลงตามแรงโน้มถ่วงจากโลก

อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ผ่านการทำศัลยกรรมยกกระชับหน้าอก เพื่อปรับความหย่อนตัวของหน้าอกให้กลับมาตั้งชันเป็นทรวดทรงยิ่งขึ้นอีกครั้ง

ปัญหาความหย่อนคล้อยของหน้าอกที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับต่างๆ ดังนี้:

  • ระดับปกติ: หน้าอกอยู่ในตำแหน่งปกติที่หัวนมจะอยู่ตรงกลางเต้าและชี้ไปข้างหน้า ไม่จำเป็นต้องทำการยกกระชับเพิ่มเติม
  • ระดับหย่อนคล้อยเล็กน้อย: หน้าอกเริ่มหย่อนลงเล็กน้อย ตำแหน่งปานนมต่ำลงมาเล็กน้อย หัวนมชี้ลงเล็กน้อย การยกกระชับอาจไม่จำเป็นตามความพอใจของแต่ละบุคคล
  • ระดับหย่อนคล้อยปานกลาง: หน้าอกแสดงอาการหย่อนคล้อยให้เห็นชัดเจน ตำแหน่งปานนมคล้อยต่ำลงมาอย่างเห็นได้ชัด หัวนมชี้ลงอย่างชัดเจน
  • ระดับหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง: เต้านมห้อยหย่อนยานลงมาเกือบถึงสะดือ มีขนาดใกล้เคียงกับลำตัว ตำแหน่งปานนมและหัวนมชี้ลงมายาวลงพื้น

การแก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยเหล่านี้สามารถทำได้โดยทางการทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับหน้าอกให้กลับมาตั้งชันและเรียวแน่นขึ้นอีกครั้ง

เทคนิคการผ่าตัดและยกกระชับหน้าอกมีหลายวิธีตามระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอกของผู้หญิง นำเสนอเทคนิคที่น่าสนใจดังนี้:

กระชับหน้าอก เทคนิครูปเสี้ยวพระจันทร์ ( Crescent )

เทคนิครูปเสี้ยวพระจันทร์ (Crescent)
เหมาะสำหรับหน้าอกที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยโดยหัวนมต่ำกว่าระดับมาตรฐานไม่เกิน 1 ซม. ในเทคนิคนี้แพทย์จะทำการตัดขอบของปานนมเป็นรูปร่างเสี้ยวพระจันทร์และยกตำแหน่งของหัวนมและปานนมขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสามารถยกปานนมได้ประมาณ 2-3 ซม. และยกหัวนมขึ้นได้ประมาณ 1-3 ซม.

กระชับหน้าอก เทคนิคโดนัท ( Donut )

เทคนิคโดนัท (Donut)
เหมาะสำหรับหน้าอกที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางโดยหัวนมต่ำกว่าระดับใต้ราวนมมากกว่า 1 ซม. ในเทคนิคนี้แพทย์จะทำการตัดผิวหนังรอบปานนมเป็นรูปร่างโดนัทและเย็บเข้าหาหัวนมเพื่อให้ดูกระชับมากขึ้น และแผลบริเวณรอบปานนมจะดูเป็นธรรมชาติและสวยงาม

กระชับหน้าอก เทคนิคที่มีแผลแนวตั้ง ( lollipop )

เทคนิคที่มีแผลแนวตั้ง (Lollipop)
เหมาะสำหรับหน้าอกที่มีความหย่อนคล้อยมากโดยระดับของหัวนมต่ำกว่าระดับของราวนมประมาณ 2-3 เซนติเมตร ในเทคนิคนี้จะต้องเลื่อนหัวน

กระชับหน้าอก การยกกระชับแบบรูปสมอ ( Anchor )

การยกกระชับแบบรูปสมอ ( Anchor )

เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่หน้าอกมีความคล้อยมากที่สุด คือ หน้าอกอยู่ต่ำกว่าระดับใต้ราวนมตั้งแต่ 3 เซนติเมตรขึ้นไป แพทย์จะทำการตกแต่งผิวหนังเพื่อลดขนาดหน้าอกและย้ายหัวนมให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีแผลในแนวนอนเพื่อให้รูปทรงของหน้าอกกลับมาสวยงาม

เตรียมตัวก่อนทำการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีการฟื้นตัวและผ่านกระบวนการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือบางข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด:

  • ลางาน: ควรลางานหรือหยุดกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและเตรียมตัวให้พร้อมในการฟื้นตัว
  • งดการดื่มน้ำและรับประทานอาหาร: ในช่วง 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดควรงดการดื่มน้ำและรับประทานอาหาร เพื่อลดการเต็มของกระเพาะอาหารและเตรียมร่างกายให้เป็นระเบียบ
  • งดทานวิตามินเสริม: ควรหยุดทานวิตามินเสริมทุกชนิดเป็นเวลา 1 เดือนก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากบางวิตามินอาจมีผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นตัวหรือการหายของแผล
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ควรหยุดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือนก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากสารเหล่านี้อาจมีผลทำให้ร่างกายใช้เวลาในการหายของนานลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการแทรกซ้อน
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ควรหยุดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือนก่อนและหลังการผ่าตัด เพราะแอลกอฮอล์อาจมีผลกระทบต่อการหายของแผลและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • มีผู้ติดตามและดูแล: ควรมีบุคคลใกล้ชิดที่สามารถดูแลและสนับสนุนในวันที่ทำการผ่าตัด อาจเป็นญาติหรือเพื่อนที่มีความเข้าใจและเตรียมพร้อมช่วยเหลือในการดูแลและยามความจำเป็น
  • หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะเอง: ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะเองหลังจากการผ่าตัด เนื่องจากยาและกระบวนการผ่าตัดอาจทำให้ร่างกายรับรู้ได้ลำบากและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
  • แจ้งประวัติการรักษาและการใช้ยา: หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดทำการผ่าตัด เพื่อให้แพทย์เป็นที่ทราบและตัดสินใจในการรักษาอย่างถู
 

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวและหายขาดจากกระบวนการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็ว นี่คือบางข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด:

  • อาการและเวลาในการฟื้นตัว: ควรระมัดระวังว่าจะมีอาการบวมและชาบริเวณที่ผ่าตัด แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองในระยะเวลาประมาณ 6 เดือนหลังผ่าตัด ระหว่างเวลานี้ควรให้ร่างกายมีเวลาในการฟื้นตัวและหายขาดอย่างเต็มที่
  • ดูแลแผลผ่าตัด: ควรรักษาแผลผ่าตัดให้แห้งอยู่เสมอโดยห้ามให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะแพทย์แนะนำให้ตัดไหม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายของแผล
  • การนอนหงายและการยกตัว: ควรนอนหงายและยกตัวสูงเพื่อลดอาการบวม ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงที่อาจกดทับแผลผ่าตัด
  • การใส่ Support Bra: ควรใส่เสื้อชั้นในที่รองรับอกเพื่อรักษารูปทรงและระยะเวลา 3 เดือนแรกหลังผ่าตัด เสื้อชั้นในช่วยให้หน้าอกมีการรักษารูปทรงที่ดีและลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำและการอาบน้ำในอ่าง: หลังจากการผ่าตัดให้หลีกเลี่ยงการเข้าน้ำหรืออาบน้ำในอ่างอย่างน้อย 1 เดือน การติดเชื้อจากน้ำอาจทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อและมีภาวะแทรกซ้อนได้
  • งดการออกกำลังกายหนักหรือการเคลื่อนไหวที่กระทบกระเทือนแผล: ในช่วงเริ่มต้นหลังผ่าตัดให้งดกิจกรรมที่อาจทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวรุนแรงหรือกระทบกระเทือนแผล เช่น การเล่นกีฬาหรือการทำงานที่ต้องใช้พลังงานมาก ควรปรับแผนการกำจัดกิจกรรมเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์และทีมการแพทย์เพื่อประสบการณ์การฟื้นตัวที่ดีและปลอดภัย