วิธีเสริมคาง มี2ประเภท ได้แก่
- วิธีฉีดคาง
- วิธีผ่าตัดคาง
การผ่าตัดด้วยวิธีเสริมคางเป็นการผ่าตัดเล็ก เบื้องต้นจะถูกประเมินด้วยศัลยแพทย์ถึงความเหมาะสมและเพื่อให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้ตรงกับความต้องการขของคนไข้เองด้วย โดยการผ่าตัดคางด้วยซิลิโคนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ การเสริมคางแผลนอก การเสริมคางแผลใน
1.การเสริมคางแผลนอก
การเสริมคางแผลนอกใช้เวลา 45 นาที โดยประมาณทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดในการทำในแต่ละเคส การผ่าตัดเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้ยาชาและเลเซอร์ในการผ่าตัด โดยศัลยกแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดความกว้าง 1.5 เซนติเมตร โดยประมาณ
ข้อดีของการเสริมคางแผลนอก
- โอกาศติดเชื้อน้อยกว่าการผ่าตัดคางแผลใน เนื่องจากไม่สัมผัสกับน้ำลายหรือเศษอาหารโดยตรง
- การวางซิลิโคนง่ายและแม่นยำ
- แผลหายเร็วและมีขนาดเล็ก
- ซิลิโคนจะถูกเย็บเพื่อป้องกันการเกิดการเบี้ยวของซิลิโคน
- การใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัดจะช่วยลดโอกาศบวม เสียเลือดน้อย
- ถ้าต้องขูดฟิลเลอร์ ควรใช้เทคนิคแก้คางแผลนอก ขูดสารเหลวได้เกลี้ยงกว่า
ข้อควรระวัง
อาจไม่เหมาะกับคนที่มีเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย ดังนั้นในบางรายอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ แต่หากทำการดูแลรักษาอย่างดีทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ รอยแผลเป็นก็อาจหายได้ โดยเฉลี่ยต้องใช้ระยะนานพอสมควร ประมาณ 1-3 เดือน
2. การเสริมคางแผลใน
การศัลยกรรมเสริมคางแผลในช่องปาก ระหว่างฝีปากล่าง กับเหงือกด้านใน โดยความยาวของแผลจะมีความยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร หรืออยู่ที่ขนาดซิลิโคน จากนั้นศัลยแพทย์จะทำการผ่าเพื่อวางแท่งซิลิโคน โดยแยกเนื้อเยื่อบริเวณขอบล่างของคางด้านในออก หลังจากวางซิลิโคนได้เหมาะสมแล้ว ศัลยบแพทย์จะทำการเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย
ข้อดีของการเสริมคางแผลใน
- แผลจะถูกซ่อนอยู่ภายในช่องปาก ทำให้ไม่เห็นและไม่เป็นแผลเป็น
- เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในการทำศัลยกรรมคาง มีการประเมินอย่างละเอียดก่อนทำ
ข้อควรระวัง
- เนื่องจากแผลอยู่ภายในช่องปากจึงต้องดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ
- ระวังเศษอาหารในช่องปากทำให้แผลติดเชื้อ
- ระมัดระวังไม่ให้คางกระแทกจนซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่ง
เกรดและประเภทของซิลิโคนมีแบบไหนบ้าง?
1.ซิลิโคนขาสั้น
เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงสร้างพื้นฐานของใบหน้าข้อนข้างดี ซิลิโคนขาสั้นจะเน้นเฉพาะบริเวณปลายคางใ้ดูยาวขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูยาวขึ้น
2.ซิลิโคนขายาว
ประเภทของซิลิโคนนี้มีส่วนขยายโค้งที่คลุมกระดูกปลายคางเพื่อให้ซิลิโคนอยู่ในมุมเดียวกันกับโครงสร้างของใบหน้า ป้องกันการเห็นได้ชัดระหว่างแก้มและคาง ขาซิลิโคนช่วยป้องกันไม่ให้ซืลิโคนเคลื่นและล็อกกระดูกกรามเพื่อป้องกันการหย่อนคล้อย
ซิลิโคนคางช่วงยาวเหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหาเช่นคางแตกหรือมีโครงสร้างไม่แข็งแรง เพิ่มความสูงให้กับคางและป้องกันการแตก ซิลิโคนจะต้องคลุมเส้นโค้งของโครงสร้างใบหน้าเพื่อสร้างความพอดี
นอกจากลักษณะของซิลิโคนแล้ว ประเภทของซิลิโคนที่ใช้ก็มีบทบาทในการปรับสัดส่วนของใบหน้า การเลือกประเภทที่เหมาะสมสามารถช่วยสร้างลักษณะธรรมชาติ มิติและลักษณะที่สวยงามได้ มี 2 ประเภทของซิลิโคน
1.ซิลิโคนเกาหลี (Korean Silicone)
ข้อดีของซิลิโคนเกาหลีคือมันนุ่มและทำให้การเสริมดูเป็นธรรมชาติ การใช้ซิลิโคนเกาหลีสำหรับการเสริมคางจะช่วยทำให้คางดูมีมิติ พุ่ง งอน มากขึ้น แต่ยังขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อคางของแต่ละคน
2.ซิลิโคน USA
ข้อดีของการใช้ซิลิโคนอเมริกันสำหรับการเสริมคางคือมันไม่นิ่มมากและมีมาตรฐานความบริสุทธิ์พิเศษทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในวงการศัลยกรรมเสริมความงาม ช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติของคาง ปลอดภัยต่อร่างกาย และยืดหยุ่น ทำให้สามารถเป็นรูปได้ง่ายเพื่อให้เหมาะกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน
(medical grade silicone) คือซิลิโคนที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการแพทย์และได้รับการยอมรับในวงการศัลยกรรมความงามอย่างกว้างขวาง ช่วยเสริมความเป็นธรรมชาติ ปลอดภัยต่อร่างกาย ยืดหยุ่นาได้ง่ายเพื่อให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมคาง
การเสริมหรือการทำศัลยกรรมควรศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจ และมีข้อปฏิบัติดังนี้ก่อนรับการผ่าตัด
- แจ้งข้อมูลทางด้านสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว และประวัติแพ้ยา
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดใช้ยาต่าง ๆ เช่น แอสไพริน วิตามิน และอาหารเสริม เช่น น้ำมันตับปลา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- เตรียมตัวด้วยตัวอย่างรูปทรงคางที่ต้องการและปรึกษากับแพทย์ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเพื่อประเมินรูปทรง
- ทำความสะอาดร่างกายก่อนผ่าตัด เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน และบ้วนปากให้เรียบร้อย
- ทานอาหารให้เพียงพอก่อนผ่าตัด ไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร
- ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า ควรสวมเสื้อผ้าที่เป็นกระดุมหน้าเพื่อความสะดวกต่อการสวมใส่หลังผ่าตัด
หลังการทำการเสริมคางแล้ว แนะนำให้ประคองอาหารอ่อนที่ไม่ต้องเคี้ยวหรือมีรสชาติเข้ม ๆ และหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดหรือเค็ม ช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด งดอาหารแสลง อาหารทะเล ของสุก ๆ ดิบ