วิธีเสริมคาง มี2ประเภท ได้แก่

 
  • วิธีฉีดคาง
          การฉีดเสริมคางสามารถฉีดด้วยฟิลเลอร์หรือไขมันของตนเองก็ได้ การฉีดคางผลของการทำจะอยู่ได้นานประมาณ 1-3 ปี ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามลักษระผิวและร่างกายของคนไข้แต่ละคน
  • วิธีผ่าตัดคาง 

          การผ่าตัดด้วยวิธีเสริมคางเป็นการผ่าตัดเล็ก เบื้องต้นจะถูกประเมินด้วยศัลยแพทย์ถึงความเหมาะสมและเพื่อให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ทั้งนี้เพื่อให้ตรงกับความต้องการขของคนไข้เองด้วย โดยการผ่าตัดคางด้วยซิลิโคนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ การเสริมคางแผลนอก การเสริมคางแผลใน

1.การเสริมคางแผลนอก

การเสริมคางแผลนอกใช้เวลา 45 นาที โดยประมาณทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดในการทำในแต่ละเคส การผ่าตัดเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้ยาชาและเลเซอร์ในการผ่าตัด โดยศัลยกแพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดความกว้าง 1.5 เซนติเมตร โดยประมาณ

 

ข้อดีของการเสริมคางแผลนอก

  • โอกาศติดเชื้อน้อยกว่าการผ่าตัดคางแผลใน เนื่องจากไม่สัมผัสกับน้ำลายหรือเศษอาหารโดยตรง
  • การวางซิลิโคนง่ายและแม่นยำ
  • แผลหายเร็วและมีขนาดเล็ก
  • ซิลิโคนจะถูกเย็บเพื่อป้องกันการเกิดการเบี้ยวของซิลิโคน
  • การใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัดจะช่วยลดโอกาศบวม เสียเลือดน้อย
  • ถ้าต้องขูดฟิลเลอร์ ควรใช้เทคนิคแก้คางแผลนอก ขูดสารเหลวได้เกลี้ยงกว่า

ข้อควรระวัง 

อาจไม่เหมาะกับคนที่มีเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย ดังนั้นในบางรายอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ แต่หากทำการดูแลรักษาอย่างดีทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ รอยแผลเป็นก็อาจหายได้ โดยเฉลี่ยต้องใช้ระยะนานพอสมควร ประมาณ 1-3 เดือน

2. การเสริมคางแผลใน

การศัลยกรรมเสริมคางแผลในช่องปาก  ระหว่างฝีปากล่าง กับเหงือกด้านใน โดยความยาวของแผลจะมีความยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร หรืออยู่ที่ขนาดซิลิโคน จากนั้นศัลยแพทย์จะทำการผ่าเพื่อวางแท่งซิลิโคน โดยแยกเนื้อเยื่อบริเวณขอบล่างของคางด้านในออก หลังจากวางซิลิโคนได้เหมาะสมแล้ว ศัลยบแพทย์จะทำการเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย

ข้อดีของการเสริมคางแผลใน

  • แผลจะถูกซ่อนอยู่ภายในช่องปาก ทำให้ไม่เห็นและไม่เป็นแผลเป็น
  • เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในการทำศัลยกรรมคาง มีการประเมินอย่างละเอียดก่อนทำ

ข้อควรระวัง 

  • เนื่องจากแผลอยู่ภายในช่องปากจึงต้องดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ 
  • ระวังเศษอาหารในช่องปากทำให้แผลติดเชื้อ
  • ระมัดระวังไม่ให้คางกระแทกจนซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่ง 

เกรดและประเภทของซิลิโคนมีแบบไหนบ้าง?

1.ซิลิโคนขาสั้น

เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงสร้างพื้นฐานของใบหน้าข้อนข้างดี ซิลิโคนขาสั้นจะเน้นเฉพาะบริเวณปลายคางใ้ดูยาวขึ้น ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูยาวขึ้น

2.ซิลิโคนขายาว

ประเภทของซิลิโคนนี้มีส่วนขยายโค้งที่คลุมกระดูกปลายคางเพื่อให้ซิลิโคนอยู่ในมุมเดียวกันกับโครงสร้างของใบหน้า ป้องกันการเห็นได้ชัดระหว่างแก้มและคาง ขาซิลิโคนช่วยป้องกันไม่ให้ซืลิโคนเคลื่นและล็อกกระดูกกรามเพื่อป้องกันการหย่อนคล้อย

ซิลิโคนคางช่วงยาวเหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหาเช่นคางแตกหรือมีโครงสร้างไม่แข็งแรง เพิ่มความสูงให้กับคางและป้องกันการแตก ซิลิโคนจะต้องคลุมเส้นโค้งของโครงสร้างใบหน้าเพื่อสร้างความพอดี

นอกจากลักษณะของซิลิโคนแล้ว ประเภทของซิลิโคนที่ใช้ก็มีบทบาทในการปรับสัดส่วนของใบหน้า การเลือกประเภทที่เหมาะสมสามารถช่วยสร้างลักษณะธรรมชาติ มิติและลักษณะที่สวยงามได้ มี 2 ประเภทของซิลิโคน

 

1.ซิลิโคนเกาหลี  (Korean Silicone) 
ข้อดีของซิลิโคนเกาหลีคือมันนุ่มและทำให้การเสริมดูเป็นธรรมชาติ การใช้ซิลิโคนเกาหลีสำหรับการเสริมคางจะช่วยทำให้คางดูมีมิติ พุ่ง งอน มากขึ้น แต่ยังขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อคางของแต่ละคน

2.ซิลิโคน USA 
ข้อดีของการใช้ซิลิโคนอเมริกันสำหรับการเสริมคางคือมันไม่นิ่มมากและมีมาตรฐานความบริสุทธิ์พิเศษทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในวงการศัลยกรรมเสริมความงาม ช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติของคาง ปลอดภัยต่อร่างกาย และยืดหยุ่น ทำให้สามารถเป็นรูปได้ง่ายเพื่อให้เหมาะกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน

(medical grade silicone) คือซิลิโคนที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการแพทย์และได้รับการยอมรับในวงการศัลยกรรมความงามอย่างกว้างขวาง ช่วยเสริมความเป็นธรรมชาติ ปลอดภัยต่อร่างกาย ยืดหยุ่นาได้ง่ายเพื่อให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมคาง

การเสริมหรือการทำศัลยกรรมควรศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจ และมีข้อปฏิบัติดังนี้ก่อนรับการผ่าตัด

  • แจ้งข้อมูลทางด้านสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว และประวัติแพ้ยา
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • งดใช้ยาต่าง ๆ เช่น แอสไพริน วิตามิน และอาหารเสริม เช่น น้ำมันตับปลา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
  • เตรียมตัวด้วยตัวอย่างรูปทรงคางที่ต้องการและปรึกษากับแพทย์ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเพื่อประเมินรูปทรง
  • ทำความสะอาดร่างกายก่อนผ่าตัด เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน และบ้วนปากให้เรียบร้อย
  • ทานอาหารให้เพียงพอก่อนผ่าตัด ไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร
  • ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า ควรสวมเสื้อผ้าที่เป็นกระดุมหน้าเพื่อความสะดวกต่อการสวมใส่หลังผ่าตัด

หลังการทำการเสริมคางแล้ว แนะนำให้ประคองอาหารอ่อนที่ไม่ต้องเคี้ยวหรือมีรสชาติเข้ม ๆ และหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดหรือเค็ม ช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด งดอาหารแสลง อาหารทะเล ของสุก ๆ ดิบ