โปรแกรมตรวจ มะเร็งปากมดลูก Siraikorn

ตรวจมะเร็ง HPV

การตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก: สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป, การทำการตรวจคัดกรองประจำปีเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การตรวจคัดกรองด้วย Papanicolaou test (Pap smear) หรือการตรวจ HPV DNA

  • ความรู้เกี่ยวกับอาการและสัญญาณที่ควรระวัง: ควรทราบถึงอาการและสัญญาณที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเลือดออกที่ไม่ปกติ, การมีกลิ่นเหม็นที่ผิวหนังแผล, หรืออาการปวดที่สะดวกในช่วงเซ็กส์
  • การส่งเสริมสุขภาพระบบภูมิคุ้มกัน: การรักษาสุขภาพร่างกายโดยรักษาอาหารที่เพียงพอ, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เป็นสิ่งที่สำคัญในการลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
  • การฉีดวัคซีน HPV: วัคซีน HPV (Human Papillomavirus) เป็นวัคซีนที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก ควรพูดคุยกับแพทย์เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีนนี้
  • การตรวจอย่างประเมินเสี่ยง: หากคุณมีประวัติครอบครัวที่มีมะเร็งปากมดลูก หรือมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับปากมดลูก เช่น การติดเชื้อ HPV คุณอาจต้องพบแพทย์เพื่อการตรวจเพิ่มเติม
  • การรักษาตามคำแนะนำของแพทย์: หากคุณได้รับการวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูก ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการรักษา ซึ่งอาจประกอบไปด้วยการผ่าตัด, การรักษาด้วยรังสี, หรือการใช้ยาที่เหมาะสม
  • การสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนญาติ: ความสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนญาติเป็นสิ่งที่สำคัญในการเผชิญหน้ากับมะเร็งปากมดลูก ให้พูดคุยและขอความช่วยเหลือเมื่อคุณรู้สึกต้องการ
  • การสนับสนุนจากกลุ่มสนับสนุน: มีหลายองค์กรและกลุ่มสนับสนุนที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการสร้างความตระหนักและการเผชิญหน้ากับมะเร็งปากมดลูก คุณอาจค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและร่วมกิจกรรมของกลุ่มเหล่านี้
  • การตรวจติดเชื้อ HPV และมะเร็งปากมดลูก: แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่มีอาการเฉพาะเจาะจง แต่การตรวจหาเชื้อ HPV หรือการตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก สามารถช่วยในการตรวจจับโรคในระยะเริ่มต้น
  • การดูแลหลังรักษา: หลังรักษามะเร็งปากมดลูก ควรมีการติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอโดยแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง อาทิเช่นการควบคุมอาหารที่เหมาะสมและการปฏิบัติตนเพื่อสุขภาพที่ดีทั่วไป

ข้อดีของการตรวจ HPV DNA

  • เป็นการตรวจหาในระดับเซลล์ โดยใช้ห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานมีความแม่นยำสูง 
  • เมื่อเทียบกับการตรวจทั่วไป การตรวจแบบระดับเซลล์มีความแม่นยำกว่ามาก
  • สามารถหาเชื้อมะเร็งและแบ่งประเภทได้ 14 สายพันธุ์
  • สามารถระบุสายพันธุ์อันตราย เช่น สายพันธุ์ 16และ18 ได้
  • ในกรณีที่ตรวจพบ มีโอกาศที่จะพบเพียงเชื้อระยะก่อนเป็นมะเร็ง สามารถหลีกเลี่ยงหรือรักษาได้
         กล่าวคือการตรวจด้วยเทคนิค HPV DNA มีความแม่นยำสูงและสามารถเจอเชื้อได้ในระยะที่ยังไม่เป็นมะเร็ง โรคมะเร็งปากมดลูกจึงเป็นโรคที่สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ หากดูแลตนเอง ตรวจสุขภาพ รักษาสุขอนามัย หมั่นสังเกตตนเองหากมีอาการผิดปกติ และพบแพทย์ตรวจสุขภาพเฉพาะทางประจำปีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเมื่อเทียบ

รู้ผลได้ภายใน 1 วัน

การตรวจ HPV DNA เป็นกระบวนการทางห้องปฏิบัติการที่ใช้ในการตรวจสอบการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ในตัวอย่างทางชีวภาพของผู้ป่วย นี่คือขั้นตอนที่มักถูกต้องใช้ในกระบวนการตรวจ HPV DNA:

การเก็บตัวอย่าง: แพทย์หรือพยาบาลจะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากปากมดลูกของผู้ป่วยโดยใช้ชุดเก็บตัวอย่างที่เหมาะสม การเก็บตัวอย่างนี้อาจเป็นการใช้สแปร์หรือการพูดตรงโดยใช้เครื่องพูดชนิดพิเศษ

การทำการทดสอบ: ตัวอย่างที่เก็บได้จะถูกส่งไปทำการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ โดยใช้เทคนิค PCR (Polymerase Chain Reaction) เพื่อตรวจสอบการมีหรือไม่มีส่วน DNA ของไวรัส HPV ในตัวอย่าง

การวิเคราะห์ผล: ผลการทดสอบจะวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อ HPV และการระบุชนิดของไวรัสที่ตรวจพบ ปกติแล้วจะระบุได้ว่าเป็นชนิดที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูกหรือไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง

การตรวจ HPV DNA เป็นการตรวจที่สำคัญในการคัดกรองและตรวจวินิจฉัย มะเร็งปากมดลูก และภาวะที่เกี่ยวข้อง การตรวจสามารถทำได้โดยอาศัยการปรึกษากับแพทย์หรือผู้ให้การดูแลสุขภาพ เพื่อประเมินความเหมาะสมและความจำเป็นของการตรวจสอบ HPV DNA ในกรณีของคุณแต่ละรายได้มีข้อจำกัดเฉพาะ